เลือกสิ่ง “มงคล” ติดบ้านฉลองตรุษจีน
เสริมชีวิตรุ่งเรือง-ขจัดสิ่งชั่วร้ายตลอดปี
คนเชื้อสายจีนเชื่อติด ‘กลอนคู่-อักษร-รูปภาพ’ มงคลฉลองตรุษจีนนำพาความเป็นสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ชีวิตและครอบครัวตลอดทั้งปี พร้อมเป็นยันต์คุ้มภัย ขับไล่สิ่งชั่วร้าย ด้านผู้เชี่ยวชาญวัฒนธรรมจีนเผย วิธีติดกลอนคู่ และความหมายคำอวยพรที่มงคลน่าติด เพื่อสร้างความสุขรับปีใหม่
ประเพณี ความเชื่อ ของชาวจีน เรื่องการติดและประดับตัวอักษร, คำกลอน, ประโยค, คำอวยพรที่มีความหมายเป็นสิริมงคลไว้บริเวณหน้าบ้าน, ประตู, หน้าต่าง และภายในบ้าน หรือตามร้านค้าขายนั้น เป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดและได้รับความนิยมกันจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะเทศกาลตรุษจีน ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นปี ทั้งเป็นการรับสิ่งดีๆ เข้าสู่ชีวิตอีกด้วย
เห็นได้จากในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน ย่านชุมชนคนไทยเชื้อสายจีน โดยเฉพาะร้านค้าแถวเยาวราชเริ่มนำคำมงคล, คำอวยพร, รูปภาพและคำกลอนที่มีความหมายเป็นสิริมงคล ออกจำหน่ายให้ชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวจีนได้เลือกสรร นำไปประดับตกแต่งต้อนรับปีใหม่กันเป็นจำนวนมาก
ติดกลอนคู่ฉลองตรุษจีน
ศาสตราจารย์ ฟู่ เจิงโหย่ว ผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายจีน รองผู้อำนวยการศูนย์แลกเปลี่ยนวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และวัฒนธรรมจีน-ไทย สิรินธร มหาวิทยาลัยปักกิ่ง กล่าวว่า คนจีนและคนไทยเชื้อสายจีนนิยมติดประดับคำอวยพร, กลอนคู่, ตัวอักษร, รูปภาพที่มีความหมายเป็นสิริมงคล ไว้ตามสถานที่ทำงาน อาคาร บ้านเรือน ในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน หลังจากทำความสะอาดบ้านเสร็จเรียบร้อยก็จะนำคำมงคล หรือกลอนคู่ที่มีความหมายเป็นสิริมงคลดีงามมาติดประดับไว้ยาวตลอดทั้งปี โดยเปลี่ยนเพียงปีละ 1 ครั้ง เหมือนเป็นการฉลองตรุษจีน ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
?อดีตชาวจีนนิยมให้ลูกสาวเป็นผู้ติดคำมงคล กลอนคู่ ก่อนเทศกาลตรุษจีนประมาณ 10 วัน ส่วนพ่อและพี่ชายจะเป็นผู้จัดหามาให้ ถ้าบ้านไหนไม่ติดจะถือว่าแปลก เพราะการติดประดับคำมงคล กลอนคู่ ภาพวาดที่มีความหมายเป็นสิริมงคลนั้นถือเป็นเหมือนประเพณี ศิลปะของคนจีนที่ขาดไม่ได้ไปแล้ว?
อย่างไรก็ตามตัวอักษรมงคล, คำอวยพร, กลอนคู่, ฯลฯ สามารถแบ่งออกตามสถานที่ได้ 2 ประเภท คือ 1.บ้าน 2.สถานที่ทำงาน อย่างกรณีติดในบ้านนิยมติดคำที่เป็นสิริมงคลที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว ที่อยู่อาศัย เช่น ปลอดภัย, สันติสุข, สุขภาพดี, บ้านนี้มั่งคั่ง ส่วนสถานที่ทำงานนิยมติดคำมงคล หรือกลองคู่ที่เกี่ยวข้องกับการค้า เช่น เงินทองไหลมา, กิจการธุรกิจเจริญ พัฒนา เป็นต้น
3 จุดภายในบ้านติดแล้วมงคล
สำหรับคำมงคลที่นิยมติดบริเวณ 1.หน้าบ้าน-ติดกลอนคู่ที่เป็นกลอนที่มีความหมายมงคลในแนวตั้ง 2 ด้านขนานกันโดยคำกลอนต้องสัมผัสกัน นิยมติดอยู่ระหว่างป้ายคำอวยพรที่มีลักษณะเป็นแนวนอน ซึ่งความหมายของคำอวยพรจะขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าบ้านเป็นหลัก เช่น คนในบ้านอายุยืน, เก็บเกี่ยวสมบูรณ์, เด็กเรียนเก่ง, บ้านเมืองสงบสุข, ฝนตกตามฤดูกาล, ฤดูใบไม้ผลิเข้าสู่แผ่นดิน เป็นต้น
2.ตรงกระจกหน้าต่างหรือบางประตูทั้งสองข้างบริเวณหน้าบ้าน หรือในบ้าน-นิยมติดคำว่า ?ฝู? (fu) แปลว่าสันติสุข หรือนำตัวอักษรมากลับหัว จะออกเสียงว่า ?เต้า? ฟ้องเสียงกับคำที่มีความหมายว่า มาถึง หรือเชื่อว่าวาสนามาถึงบ้าน อีกคำที่ได้รับความนิยมนำมาติดบริเวณหน้าต่างหรือบานประตูคือ จาว ฉ้าย จิ้น เปา (zhao cai jin bao) ให้นำคำทั้ง 4 มารวมกันเป็น 1 คำ โดยใช้ศิลปะการตัดกระดาษของจีน หรือการเขียน อาจมีรูปนก และดอกไม้ตกแต่งอยู่ด้วย ซึ่งมีความหมายว่า เงินทองไหลมา
3.ในบ้าน-ติดภาพวาดฉลองวันตรุษจีน ได้แก่ 1.เด็กร่างท้วมอุ้มปลา 1 ตัว มักจะเป็นเด็กชาย เชื่อว่าเด็ก หมายความว่ามีลูกหลานมากมายวาสนาดี ส่วนปลา ออกเสียงว่า หยู๋ง (yu) ฟ้องเสียงเหมือนคำว่า เหลือ หมายความว่าเหลือกินเหลือใช้ นิยมติดในห้องรับแขก ห้องนอน 2.รูปผู้เฒ่า มีลูกท้อ ต้นสน กวางและนกกระเรียน เชื่อว่าผู้เฒ่า หมายถึงอวยพรให้ผู้ใหญ่อายุยืนยาว กวางและนกกระเรียนเป็นสัตว์ที่อยู่ใกล้เซียน หมายความว่า อายุยืน ส่วนต้นสน เป็นพืชที่มีชีวิตชีวาตลอด 4 ฤดู หมายความว่าธุรกิจเจริญพัฒนา และอายุยืน 3.รูปภาพจากวรรณคดี เช่น 3 ก๊ก, พระนางงูขาว, ไซอิ้ว, ความรักในหอแดง, ฯลฯ
อย่างไรก็ตามตัวอักษร, คำกลอน, ประโยค, คำอวยพรที่มีความหมายเป็นสิริมงคลยังนำมาให้ และติดได้ตามโอกาส ความเหมาะสมของเวลา, พิธีกรรม, ฯลฯ อีกด้วย เช่น 1.ขึ้นบ้านใหม่ นิยมติดคำอวยพรว่า บ้านนี้มั่งคั่ง, สุขภาพสมบูรณ์, อายุยืน, ย้ายเข้าบ้านใหม่ศิริมงคลมาถึง, ฯลฯ 2.เปิดธุรกิจใหม่ นิยมติดคำอวยพรว่า เงินทองไหลมา, ค้าขายเจริญรุ่งเรือง, ฯลฯ เป็นต้น
คุ้มครองสิ่งชั่วร้าย
ด้านเศรษฐพงษ์ จงสงวน นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนานิกายมหายาน และอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยกล่าวว่าสมัยโบราณคนจีน จะเขียนกลอนคู่ที่มีความหมายเป็นสิริมงคลบนแผ่นไม้ของต้นท้อ หรือต้นพีช เพราะเชื่อว่าจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้ และวัฒนธรรมการติดกลอนคู่ได้แพร่หลายเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงราชวงค์หมิง และราชวงค์ชิง เรียกกลอนคู่เหล่านี้ว่า กลอนปีใหม่ หรือต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ โดยกลอนคู่จะใช้ลายมือเขียน ซึ่งถือเป็นการแสดงออกทางศิลปะอีกด้วย แต่ปัจจุบันนิยมพิมพ์คำกลอนสำเร็จรูปออกจำหน่ายมากกว่า เชื่อว่าจะนำสิริมงคลเข้าสู่บ้าน และช่วยคุ้มครองสิ่งชั่วร้าย
?ดั้งเดิมคำกลอนจะเขียนด้วยหมึกสีดำ ลงบนพื้นกระดาษสีแดง หรือแดงอมส้ม เชื่อว่าสีดำเป็นยันต์คุ้มภัย ปัจจุบันยังคงนิยมกันอยู่ แต่มีจำนวนมากที่นิยมพิมพ์ตัวอักษรเป็นสีทองแทน เชื่อว่า มั่งคั่งมาสู่ชีวิต?
สำหรับการเลือกเวลาในการติดคำมงคลนั้นส่วนใหญ่จะติด 1.หลังจากทำความสะอาดบ้านเสร็จเรียบร้อย ก่อนเทศกาลตรุษจีน ส่วนตามบ้านเรือนนิยมติดกลอนคู่เป็นชุด โดยมีกลอนคู่ ติด 2 ข้างประตู และ 1 อันติดไว้แนวขวางเหนือประตู โดยความหมายของกลอนสามารถเลือกสรรได้ตามต้องการ เช่น ครอบครัวสงบสุข, เจริญรุ่งเรือง, โชคลาภเข้ามาในบ้าน, การค้าดี, กิจการดี, เจริญรุ่งเรือง เป็นต้น 2.ติดก่อนเปิดกิจการ หลังจากหยุดยาวในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยนิยมติดตามเครื่องจักร เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนเดินเครื่องทำงาน เริ่มปีใหม่
?คนไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยนิยมติดกลอน ?ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้? ไว้ประดับในวันตรุษจีน โดยมีความหมายว่า ในวันปีใหม่ขอให้สมปรารถนา มีโชคมีลาภ, ซิงชุงไต่กิก หมายความว่า ฤดูใบไม้ผลิรอบใหม่, เง้งชุงจิฮก หมายความว่า ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ รับความสุขเข้ามา, สี่ขุ่ยเฮงล้ง แปลว่าทั้งสี่ฤดูมีความเจริญรุ่งเรือง หรือคนทำการค้าบางกิจการจะนิยมติดคำว่า เจ็กปึ้งบ่วงหลี แปลว่า ลงทุนเพียงหนึ่งได้กำไรเป็นหมื่น?
อย่างไรก็ประเพณีการติดประดับตัวอักษร กลอนที่มีความหมายมงคลก็ยังคงได้รับสืบทอดต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้