วันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านกันเตรียง ต.บ้านแร่ อ.เขวาสินรินทร์ (ขวาว-สิน-นะริน) จ.สุรินทร์ กำลังแตกตื่น และแห่ไปดูต้นมะพร้าวที่แตกยอดออกมาผิดปกติ คล้ายพญานาคแล้วขดรอบโคนต้น หลังทราบข่าวจึงได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบ พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูต้นมะพร้าวที่แตกยอดออกมาคล้ายงูใหญ่ชนิดหนึ่ง ขดรอบโคนต้น นอกจากนี้ชาวบ้านยังได้ทำเครื่องเซ่นไหว้ และเครื่องบายศรีสู่ขวัญ ไปตั้งหน้าต้นมะพร้าว พร้อมจุดธูปเทียนกราบไหว้บูชาและนำร่างทรงมาทำพิธีเข้าทรงด้วย
สำหรับดังกล่าว ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น เกิดขึ้นภายในสวนของคุณยายกานต์ นภาคเวช อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 12 บ้านกันเตรียง ต.บ้านแร่ อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ โดยต้นมะพร้าวดังกล่าวแตกยอดออกมาผิดปกติขดรอบโคนต้น ซึ่งชาวบ้านหลายคนต่างลงความเห็นว่าที่ปลายยอดมีลักษณะคล้ายหัวพญานาค
ด้าน คุณยายกานต์ เจ้าของที่ดินที่พบต้นมะพร้าวดังกล่าว บอกว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเช้ามีชาวบ้านในหมู่บ้านได้ออกมาหาเก็บเห็ดปลวก (เห็ดโคน) นำไปทำกับข้าวรับประทาน เนื่องจากที่สวนของตนมักมีเห็ดปลวกเกิดขึ้นประจำ แต่ในขณะที่ชาวบ้านกำลังหาเก็บเห็ดก็ได้ไปพบกับต้นมะพร้าวที่แตกยอดออกมาผิด ปกติและคล้ายพญานาค จึงได้มาบอกตน และไปดูพบว่ามีลักษณะที่คล้ายพญานาคจริงๆ จึงได้บอกชาวบ้านให้ทราบ หลังจากข่าวแพร่ออกไป ก็มีชาวบ้านจำนวนมากพากันมาดู และเป็นความเชื่อของชาวบ้านว่า เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็นจึงได้พากันนำเครื่องเซ่น ไหว้มาเซ่นไหว้ พร้อมจัดเครื่องบายศรีมาต้อนรับ และนำร่างทรงมาเข้าทรงเพื่อสอบถาม อย่างไรก็ตามนอกจากชาวบ้านที่ทราบข่าวมาทำพิธีกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคล แล้ว ยังมีชาวบ้านจากหมู่บ้านข้างเคียงได้เดินทางมาดู และมาขอโชคลาภกันเป็นจำนวนมาก เพื่อเสี่ยงโชคหวยงวดวันที่ 16 ต.ค.นี้ ทั้งนี้มีคอหวยรายหนึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อบอกว่า ตนเองตีพญานาคเป็นเลข 9 และเมื่อคุณยายเจ้าของที่ดินอายุ 71 ปี จึงตีเป็นเลขเด็ด 71 และ 971 กะว่าจะเอาไว้เสี่ยงโชคงวดนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานมาด้วยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ ต.บ้านแร่ และ ต.แสลงพันธ์ และ ต.อาโพน อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีบ่อยครั้งมาก โดยมาจากการขุดพบไม้ที่คล้ายงู ชาวบ้านต่างเชื่อว่าเป็นพญานาค และมากราบไหว้ ต่อมาก็เป็นต้นไผ่ที่มีเกล็ดคล้ายพญานาค จนชาวบ้านเชื่อและแห่ขอโชคลาภ จนกระทั่งถึงต้นมะพร้าวดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดเป็นความเชื่อของชาวบ้านที่มีมาแต่โบราณ
ขอบคุณที่มาจาก หนังสือพิมพ์บ้านเมือง